แกะรอยความสำเร็จของ POP MART และเผยโอกาสของ SME ในยุคนี้!

หนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงในนาทีนี้คงหนีไม่พ้นกล่องสุ่ม “Art Toys” จาก POP MART ที่เริ่มจากของเล่นและกลายเป็นของสะสมของผู้คน และ 2 Collection ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ “Cry Baby” ที่ออกแบบโดยศิลปินชาวไทย รวมถึงเจ้า “ลาบูบู้” ที่ราคาพุ่งสูงลิ่วแบบ To the moon จากกระแสนี้ SME จะเรียนรู้หรือคว้าโอกาสอะไรได้บ้างเพื่อต่อยอดกิจการของตัวเอง? บทความนี้ได้สรุปสิ่งน่าสนใจมาให้

สรุปความสำเร็จของ POP MART กับกลยุทธ์ที่ทำให้นักสะสมทั่วโลกหลงรัก

▪ เจาะ Target ให้แคบลง

POP MART เริ่มจากร้านค้าทั่วไป แล้วปรับเป็นการเน้นสินค้ากลุ่มเฉพาะอย่าง Art Toys จนกลายเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

▪ ใช้กลยุทธ์ Co-Branding

POP MART ร่วมมือกับนักออกแบบทั่วโลก (Co-Branding) ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น

▪ สร้าง Emotional Appeal

การสุ่มซื้อเพิ่มความตื่นเต้น กระตุ้นยอดขาย และสร้างความรู้สึกพิเศษให้ลูกค้า

SME เรียนรู้อะไรจากความสำเร็จของ POP MART บ้าง?

▪ การหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ใช่ ไม่จำเป็นต้องกว้าง แต่ควรเลือกกลุ่มที่ตรงกับสินค้า

▪ ร่วมมือมากกว่าการแข่งขัน การทำธุรกิจในปัจจุบันอาจต้องปรับเปลี่ยนจากคู่แข่งมาเป็นคู่ค้า เพื่อให้ SME สามารถเติบโตได้ไกลกว่าเดิม

▪ สร้างแบรนด์และอารมณ์ร่วมกับสินค้าหรือบริการ เพื่อสร้างความแตกต่างและเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น

▪ ตามกระแสเทรนด์ให้ทัน การทำคอนเทนต์หรือการ Collab ช่วยให้ฐานลูกค้าเห็นสินค้าและบริการมากขึ้น

จากกระแสของ POP MART ที่กำลังมาแรง ถ้า SME ไม่อยากพลาดโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ ต้องไม่ลืม 3 สิ่งนี้ ได้แก่ การเจาะกลุ่ม Target ที่ใช่ การลองใช้ Co-Branding และการสร้างอารมณ์ร่วมกับลูกค้า เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการ

#KrungsriBusiness

#KrungsriSME