แนะนำให้ใส่คีย์เวิร์ดเพื่อกดค้นหา www.krungsribusinesslink.com แนะนำให้
ใส่คีย์เวิร์ดเพื่อกดค้นหา
'+n.text+"<\/span>")}$(document).ready(function(){$("#requestCulture_RequestCulture_UICulture_Name").select2dropdown({minimumResultsForSearch:Infinity,dropdownCssClass:"language-dropdown",templateResult:formatState});$("#requestCulture_RequestCulture_UICulture_Name").val("th-TH").trigger("change.select2");$("#requestCulture_RequestCulture_UICulture_Name").change(function(){this.form.submit();$(".b2b-loader").addClass("appear");setTimeout(function(){$(".b2b-loader").removeClass("appear")},3e3)})})
ในวันที่คนทำงานไม่ต้องการแค่ "เจ้านายที่สั่งเก่ง" แต่ต้องการ "ผู้นำที่เข้าใจ" ภาวะผู้นำแบบ ‘แม่’ จึงกลายเป็นคำตอบใหม่ของการบริหารทีมที่ต้องการเติบโตไปด้วยกัน
ภาวะผู้นำแบบแม่ (Motherly Leadership) ไม่ได้แปลว่าการเลี้ยงดูแบบตามใจ แต่มันคือการสร้าง Safe Space ที่คนในทีมกล้าทดลอง กล้าพลาด และกล้าที่จะเติบโต ในขณะเดียวกันก็ยังมีกรอบ มีความคาดหวัง และเป้าหมายที่ชัดเจน
ในวัฒนธรรมองค์กรดั้งเดิม เราให้ค่ากับความเด็ดขาด ความแข็งแกร่ง และคำสั่งที่ไม่ต้องถาม
แต่ในโลกหลังยุคโควิด และในปี 2025 เป็นต้นมา สิ่งที่ทีมต้องการมากที่สุดคือ "ความไว้วางใจ" และ "พื้นที่ให้พนักงานได้เรียนรู้และเติบโต"
ผู้นำที่ใช้หัวใจเข้าใจคนมากพอ จะดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของคนออกมาได้ และทำให้คน “อยู่” กับองค์กรนานกว่าแค่ผลตอบแทนทางตัวเงิน
1.ฟังอย่างลึก ไม่ตัดสินเร็ว: ไม่ใช่ฟังเพื่อโต้กลับ แต่ฟังเพื่อเข้าใจสิ่งที่คนในทีมกำลังเผชิญอยู่
2.สนับสนุนโดยไม่ทำให้คนพึ่งพา: แม่ที่ดีไม่ได้ทำแทนทุกอย่าง แต่สอนให้ลูกลุกขึ้นได้เองหลังล้ม ผู้นำแบบนี้จะมองหาโอกาสให้คนในทีมได้โต ได้แสดงศักยภาพ
3.รักโดยไม่ละเลยขอบเขต: ผู้นำที่เข้าใจคน ไม่ใช่ผู้นำที่ตามใจ แต่เป็นคนที่สร้างกรอบที่ชัด บอกให้รู้ว่าอะไรคือ “ความคาดหวัง” และอะไรคือ “ความผิดพลาดที่เรียนรู้ได้”
ทั้งนี้ ไม่เฉพาะผู้หญิงเท่านั้นที่ใช้แนวทางการบริหารแบบนี้ได้ ผู้ชายที่เข้าใจหลักการนี้ และนำมาปรับใช้ในการบริหาร มักได้รับความไว้วางใจจากทีม และสามารถนำทีมผ่านความยากลำบากไปได้
ปิยะนุช วัฒนวรางกูร — ก่อตั้ง After You
จากร้านขนมเล็ก ๆ ในทองหล่อ สู่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปิยะนุชให้ความสำคัญกับการ “เข้าใจทีมงาน” และ “ไม่ทำเพื่อกำไรอย่างเดียว” แนวคิดแบบนี้สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ “คนอยากอยู่ต่อ” และ “ภักดี” ต่อแบรนด์มากกว่าสิ่งจูงใจทางตัวเลข “เราต้องดูแลคนของเราก่อน แล้วเขาจะดูแลลูกค้าเอง”
Indra Nooyi — อดีต CEO PepsiCo
หนึ่งในผู้นำหญิงที่เปลี่ยนโฉม PepsiCo จากแบรนด์น้ำอัดลม สู่ธุรกิจอาหารสุขภาพ เธอใช้การฟังและความเข้าใจในการเปลี่ยนทีมบริหารกว่า 20 ประเทศ Indra เคยเขียนจดหมายขอบคุณถึงพ่อแม่ของพนักงานที่ทำงานดี เพราะเธอเชื่อว่า “ความสำเร็จของคนคนหนึ่ง คือความร่วมมือจากทั้งครอบครัว”
Satya Nadella – CEO ของ Microsoft
หลังจากรับตำแหน่ง CEO ในปี 2014 Satya Nadella เปลี่ยนวัฒนธรรมของ Microsoft จากองค์กรที่เน้น “การแข่งขันภายใน” ไปสู่ “การเรียนรู้ร่วมกัน” เขาส่งเสริม “ความเห็นอกเห็นใจ” (Empathy) ให้เป็น Core Value ขององค์กร และสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานกล้าลองผิดลองถูก
เขาเคยกล่าวไว้ว่า “Empathy makes you a better innovator.”
สำหรับ SME ผู้นำคือ “พ่อ-แม่” ของทีม ในองค์กรขนาดเล็กหรือกลาง โดยเฉพาะ SME เจ้าของธุรกิจไม่ใช่แค่ CEO แต่คือคนที่คนในทีมมองว่า “เป็นที่พึ่ง” การสร้างความสัมพันธ์แบบไว้ใจได้ และไม่ใช้อำนาจเพียงอย่างเดียว จะทำให้เกิดทีมที่เหนียวแน่นและพร้อมจะลุยไปด้วยกัน
สำรวจตัวเอง คุณมีภาวะผู้นำแบบนี้ไหม?
- คุณฟังลูกทีมโดยไม่รีบสรุปแทนไหม?
- คุณเชื่อว่าคนพัฒนาได้ แม้เขาจะผิดพลาด?
- คุณกล้าบอกขอบเขต แต่ยังทำให้ทีมรู้สึกว่า “มีที่ยืน”?
ถ้า "ใช่" แสดงว่าคุณกำลังเดินบนเส้นทางของภาวะผู้นำแบบแม่อย่างแท้จริง และมีแนวโน้มที่คนในองค์กรจะให้ความรักและเคารพคุณอย่างแท้จริง
เครื่องมือสำหรับเจ้าของกิจการ ที่อยากประเมินตัวเองว่า คุณคือผู้นำที่ทีม “ไว้วางใจ” และ “พร้อมโตไปด้วย” มากแค่ไหน
ดาวน์โหลด https://bit.ly/KS_EmpatheticLeadership
เริ่มวันนี้...
ผู้นำที่เข้าใจคน คือผู้นำที่พาทีมรอด ลอง “นำด้วยความเข้าใจ” แล้วคุณจะได้ทีมที่ทุ่มเทเกินกว่าที่สั่ง พร้อมเผยศักยภาพที่ไม่เคยมีใครกล้าปล่อยออกมา
#EmpatheticLeadership #SMEทำเองได้ #KrungsriBusinessEmpowerment
Share