เช็กพร้อมกัน! คุณเป็นผู้นำแบบใด แล้วได้ใจคนทำงานมากแค่ไหน?

เช็กพร้อมกัน! คุณเป็นผู้นำแบบใด แล้วได้ใจคนทำงานมากแค่ไหน?

.

เคยลองสังเกตตัวเองไหม..ว่าคุณเองเป็นผู้นำสายไหนกัน? แล้วจะทำยังไงให้ยังคงเป็นตัวของตัวเองแต่ก็ยังได้ใจทีมงานด้วย โพสต์นี้จะพาคุณไปเช็กพร้อมกันว่าคุณเป็นผู้นำแบบคนดังระดับโลกคนไหน

.

ลองมาดู 4 คนดังระดับโลก แล้วเช็กเลยว่าคนไหนเป็นผู้นำที่ลักษณะคล้ายคุณเองมากที่สุด? ​

1. Steve Jobs : ผู้นำสาย Innovation

อย่างที่รู้กันว่าสตีฟ จ็อบส์ เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมที่ล้ำสมัยออกมาให้ได้เห็นอยู่เสมอในช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่ และเป็น CEO ของ Apple ไม่เพียงตัวเขาเท่านั้นที่มีความ Innovation แต่เขายังปลูกฝังให้ทีมงานทุกแผนกมี Mindset เดียวกัน โดยเชื่อว่าทุกคนสร้างนวัตกรรมได้ ไม่เพียงเท่านั้นแต่ถ้าหากคุณเองเป็นผู้นำที่คิดบวก และชอบใช้ความคิดสร้างสรรค์มาเป็นไอเดียในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ คุณจัดอยู่ในผู้นำแบบสตีฟ จ็อบส์

2. Tim cook : ผู้นำที่เป็นตัวของตัวเอง

ผู้ที่มาสานต่อนวัตกรรมของ Apple และมารับตำแหน่ง CEO ของ Apple เขาจะแตกต่างจาก สตีฟ จ็อบส์ อย่างสิ้นเชิง เพราะเขาเองไม่ใช่ผู้นำสายนวัตกรรม ทำให้ Apple ในปัจจุบันไม่ได้มีเทคโนโลยีที่ว้าวเท่าเมื่อก่อน แต่สิ่งที่ Cook ทำได้ดีกว่าคือการใช้ความเป็นตัวของตัวเองทำให้ Apple มีกำไรมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะเขาคือคนที่เชื่อมั่นและเป็นตัวของเขาเอง ที่สำคัญยังกล้าที่จะออกคำสั่งเมื่อต้องสั่ง และเขายังมอบความเชื่อใจให้กับทีมงาน นั่นเป็นอีกบทเรียนที่ทำให้ Apple ประสบความสำเร็จต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

.

3. Elon musk : ผู้นำสายดุดัน

อย่างที่เห็นกันว่าผู้นำแบบอีลอน มัสก์คือผู้ที่มีเป้าหมายแน่วแน่ ทะเยอทะยาน และเป็นคนที่คิดจะเปลี่ยนโลก ไม่รอให้โลกเปลี่ยน ถ้าคุณเองมีนิสัยคิดเร็ว ตัดสินใจเร็ว ที่สำคัญคือไม่ทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ แต่ลงมือ ลงแรงแบบสุดตัวแบบนี้ คุณจัดว่าเป็นผู้นำในแบบของอีลอน มัสก์

.

4. Bill Gates : ผู้นำสาย Work Life Balance

บิลล์ เกตส์เองเป็นผู้นำที่เชื่อในการทำงานอย่างหนัก แต่เขาเองก็มีวิธีการจัดการ วางแผน แบ่งเวลาการทำงานหนักของเขาอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน นอกจากนี้บิลล์ เกตส์เองยังเป็นคนที่ไม่ได้มุทะลุ แต่เขาชื่อว่าจังหวะไหนที่ควรสู้ หรือจังหวะไหนที่ควรถอย

.

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้นำสายไหน ถ้าอยากได้ใจคนทำงานจะต้องทำทั้ง 4 ข้อนี้ ให้ครบ เพราะนอกจากซื้อใจทีมได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้งานอีกด้วย

.

1. เชื่อใจ ให้ทีมงานได้แสดงความสามารถ

ยิ่งเป็นงานที่ยากหรือท้าทายการมอบหมายให้ทีมเป็นผู้จัดการ โดยมีคุณเป็นหัวเรือที่คอยดูห่างๆ กล้าที่จะมอบหมายให้คนในทีมจัดการ โดนไม่หวั่นหากจะเกิดความผิดพลาดหรืออาจไม่เป็นไปตามความคาดหวัง 100% แต่สิ่งนี้เองจะทำให้ทีมงานมีความมั่นใจและได้เห็นถึงไอเดีย ทางออกใหม่ๆ ได้ ซึ่งดีกับงานต่อๆ ไปในอนาคต

.

2. ใช้ระบบประชาธิปไตยดูแลทีมงาน

มีข้อดีก็เชื่อมโยงจากข้อแรก เพราะการบริหารทีมงานแบบประชาธิปไตยคือการฟังความเห็นของเสียงข้างมาก ซึ่งวิธีนี้เองจะทำให้ทีมงานรู้สึกมีส่วนร่วมกับกิจกรรม รวมถึงมีโอกาสได้แสดงไอเดียใหม่ๆ และสุดท้ายเมื่อได้ข้อสรุปของเสียงข้างมากแล้ว ตัวของผู้นำเองจะต้องตัดสินใจเป็นด่านสุดท้ายอย่างเด็ดขาด ปราศจากความลังเล ยืนกรานตามเสียงข้างมาก เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย และเพื่อให้ทุกคนในทีมเคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน เชื่อมั่นในตัวผู้นำด้วยที่มีความยุติธรรมและรับฟังทีม

.

3. ขอบคุณให้เป็น

ผู้นำที่ดีนอกจากจะต้องบริหารคนให้เก่งแล้ว ยังต้องแสดงออกด้วยการชื่นชมและขอบคุณให้เป็นด้วย เมื่อทีมงานทำงานสำเร็จ บรรลุผล เพราะจะช่วยเสริมให้ทีมงานมีกำลังใจในการทำงานต่อไป และเพิ่มความมั่นใจให้กับทีมงาน ส่งผลให้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

.

4. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทีม

เป็นผู้นำได้ต้องเก่งให้ได้ทั้งการบริหารงานและการบริหารคนให้เป็น สานสัมพันธ์ที่ดีให้กับทีมเกิดความสามัคคี ด้วยวิธีง่ายๆ ไม่ว่าจะจัดกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ ให้ทีมละลายพฤติกรรมและรู้จัก สนิทกันมากยิ่งขึ้น เมื่อเกิดความสามัคคีแล้วแน่นอนว่าผลที่ตามมาจะทำให้งานออกมาดีกว่าเดิมแน่นอน

.

การจะเป็นผู้นำที่ทีมงานรักและยอมให้ใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้นำไลฟ์สไตล์ใดก็เป็นผู้นำที่ดีและได้ใจทีมงานได้เช่นกัน เพียงหมั่นเรียนรู้และทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน เชื่อใจ ให้โอกาสแสดงความสามารถ และบาลานซ์การบริหารส่วนของงานและความสัมพันธ์ให้ดี ถ้าคุณได้ทำ 4 ข้อนี้ครบแล้ว คุณจะกลายเป็นผู้นำที่ได้ใจคนทำงานไปเต็มๆ ที่สำคัญยังทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

.

แล้วคุณล่ะคิดว่าตัวคุณเองเป็นผู้นำสายไหน..แล้ววันนี้ได้ใจลูกน้องหรือยัง?

.

#KrungsriBusinessEmpowerment

#KrungsriBusiness

#KrungsriSME