ปลดล็อคศักยภาพธุรกิจด้วย Law of Diminishing Return ทำงานอย่างชาญฉลาดเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน

ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการหลายคนเชื่อว่าการทำงานหนักเท่านั้นจะนำพาธุรกิจสู่ความสำเร็จ แต่นั่นอาจไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดเสมอไป กฎแห่งผลตอบแทนที่ลดลง (Law of Diminishing Return) เป็นแนวคิดที่สอนให้เรารู้ว่าการทุ่มเทมากเกินไป ณ จุดหนึ่ง อาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเสมอไป แต่การใช้แนวทางที่ชาญฉลาดและมีกลยุทธ์ จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและผลักดันธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ โดยไม่จำเป็นต้องทำงานอย่างหนักหน่วงเกินไป

4 เทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพด้วยกฎ Law of Diminishing Return สำหรับผู้ประกอบการ SME ให้ทำได้สำเร็จแน่

.

1. เข้าใจธรรมชาติของกฎ Law of Diminishing Return

ผู้ประกอบการ SME มักจะมองว่าการทำงานทั้งวันทั้งคืนคือทางเดียวที่จะทำให้ธุรกิจรอดและเติบโต แต่ความจริงคือ เมื่อทุ่มเทมากเกินไป ทั้งร่างกายและสมองจะเริ่มอ่อนล้า ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่คุ้มกับเวลาหรือแรงที่ทุ่มเทไป การเข้าใจว่าการทำงานหนักเกินไปไม่ใช่คำตอบ จึงช่วยให้ผู้ประกอบการจัดการเวลาและทรัพยากรได้อย่างสมดุล เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สูงสุดในระยะยาว

.

2. ใช้กฎ Law of Diminishing Return ควบคู่กับเทคนิค Pomodoro

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องจัดการงานหลายอย่าง การใช้เทคนิค Pomodoro ซึ่งเป็นวิธีการบริหารเวลา โดยแบ่งการทำงานออกเป็นช่วง ๆ เช่น ทำงาน 25 นาที พัก 5 นาที จะช่วยให้คุณสามารถโฟกัสกับงานที่สำคัญได้ดีขึ้น การทำงานแบบนี้จะป้องกันความเหนื่อยล้า ลดความเสี่ยงจากการทำงานมากเกินไป และช่วยให้คุณยังคงประสิทธิภาพในการทำงานได้ตลอดทั้งวัน

.

3. ผสมผสานกฎ Law of Diminishing Return กับกฎ 80/20

การบริหารธุรกิจ SME มักจะต้องจัดการกับหลายหน้าที่พร้อมกัน ซึ่งบางครั้งอาจทำให้รู้สึกว่าต้องทำทุกอย่างเพื่อความสำเร็จ แต่ในความเป็นจริง กฎ 80/20 หรือกฎพาเรโตบอกเราว่า 80% ของผลลัพธ์ที่ได้ มักมาจากเพียง 20% ของสิ่งที่ทำเท่านั้น ดังนั้นสำหรับผู้ประกอบการ SME การนำกฎนี้มาใช้ หมายถึงการโฟกัสที่งานหรือทรัพยากรเพียง 20% ที่สร้างผลลัพธ์สูงสุด เช่น การมุ่งเน้นพัฒนาสินค้าหรือบริการที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า หรือการลงทุนในแคมเปญการตลาดที่ทำให้ยอดขายพุ่ง การลดความสำคัญของงานที่เหลือหรือที่ส่งผลลัพธ์น้อย จะช่วยให้คุณสามารถประหยัดเวลาและทรัพยากรได้ และทำให้มีพลังงานเหลือสำหรับพัฒนาสิ่งที่มีความสำคัญจริง ๆ

.

4. ทุ่มเทตามสัญชาตญาณ แต่ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน

การทำธุรกิจ SME มักต้องมีการตัดสินใจที่สำคัญ เช่น การลงทุนในโปรเจกต์ใหม่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือการเปิดตลาดใหม่ ๆ กฎ Law of Diminishing Return ไม่ได้บอกว่าการทุ่มเทอย่างเต็มที่เป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่การทุ่มเทนั้นต้องมาพร้อมกับการวิเคราะห์และตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น หากคุณมีแผนพัฒนาสินค้าใหม่และเห็นโอกาสทางตลาดที่ชัดเจน การทุ่มเทเวลาและทรัพยากรให้กับโครงการนั้นก็อาจคุ้มค่า แต่ก็ควรระมัดระวังไม่ให้การทุ่มเทเกินกว่าจุดที่คุ้มค่า การตัดสินใจอย่างมีเป้าหมายจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีทิศทาง

.

การนำกฎ Law of Diminishing Return มาใช้กับธุรกิจ SME ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณสามารถจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น และลดโอกาสการทำงานหนักเกินไป จนส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่น้อยลง ทั้งในด้านเวลาและต้นทุน ซึ่งอาจทำให้ธุรกิจเกิดความล่าช้าและประสิทธิภาพการดำเนินงานลดลงในระยะยาว

.

นอกจากนี้ กฎ Law of Diminishing Return ยังมีส่วนช่วยสร้างสมดุลในชีวิตส่วนตัว การทำงานอย่างหนักต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก อาจทำให้เสียสุขภาพกายและจิตใจ การรู้จักแบ่งเวลาให้กับตัวเอง พักผ่อนเพียงพอ จะช่วยให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์และพลังงานที่เต็มเปี่ยมในการทำงานต่อไป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จในระยะยาว

.

#KrungsriBusinessEmpowerment

#KrungsriBusiness

#KrungsriSME