แนะนำให้ใส่คีย์เวิร์ดเพื่อกดค้นหา www.krungsribusinesslink.com แนะนำให้
ใส่คีย์เวิร์ดเพื่อกดค้นหา
'+n.text+"<\/span>")}$(document).ready(function(){$("#requestCulture_RequestCulture_UICulture_Name").select2dropdown({minimumResultsForSearch:Infinity,dropdownCssClass:"language-dropdown",templateResult:formatState});$("#requestCulture_RequestCulture_UICulture_Name").val("th-TH").trigger("change.select2");$("#requestCulture_RequestCulture_UICulture_Name").change(function(){this.form.submit();$(".b2b-loader").addClass("appear");setTimeout(function(){$(".b2b-loader").removeClass("appear")},3e3)})})
แน่นอนว่าในการทำการตลาดนั้น หลายๆ แบรนด์ต่างห้ำหั่นคู่แข่งกันด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างกันไป เพื่อแข่งขันให้ได้ใจลูกค้ามากที่สุด แต่ในโพสต์นี้เป็นเพียงตัวอย่างที่เรายกมานำเสนอให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้นเท่านั้น จากที่ผ่านมาไม่นานมานี้ หลายๆ คน คงได้เห็นปรากฏการณ์กับแคมเปญที่เป็นไวรัลไปทั่วโซเชียลมีเดียของร้านพิซซ่าชื่อดังทั้ง 2 เจ้า ที่จัดโปรโมชั่นราคาพิซซ่าในราคา 98 และ 99 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าสร้าง Impact มากเลยทีเดียว ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ควรทำความเข้าใจพร้อมกัน ก่อนจะ Launch แคมเปญออกไป
สำหรับแคมเปญของพิซซ่าทั้ง 2 เจ้านั้น จะเห็นว่าสร้างการจดจำให้กับผู้บริโภคจริง และเป็นที่พูดถึงในโซเชียลมีเดียอย่างล้นหลาม แต่ Insight ที่เกิดขึ้นของแคมเปญนี้มีอะไรที่ละเอียดอ่อนและน่าสนใจมากกว่านั้น เพราะผลตอบรับที่ได้กลับมามีทั้งมุม Positive และ Negative ซึ่งแน่นอนว่า Feedback ในแง่บวกคงหนีไม่พ้นเรื่องของราคาที่ถูก คุ้มค่า และเข้าถึงง่าย ทำให้ลูกค้าต่างก็ยอมแห่ไปจองคิวซื้อพิซซ่ากันอย่างหนาแน่น และเรียกได้ว่าโซเชียลมีเดียแทบแตก เพราะคนพูดถึงแคมเปญนี้กันอย่างล้นหลาม แต่ในมุม Negative ก็มีเช่นกัน แม้แคมเปญจะสร้างไวรัล สร้าง Engagement อย่างล้นหลาม แต่ในด้านลบก็ถูกพูดถึงไม่น้อย เพราะการที่มีออเดอร์จำนวนมากนำมาซึ่งผลกระทบต่อคุณภาพสินค้าอย่างแน่นอน ด้วยจำนวนของพนักงานเท่าเดิม แต่ออเดอร์เพิ่มมาเป็นหลายเท่าตัว จึงมีเสียงบ่นจากผู้บริโภคถึงการรอคิวนานเกินไป อาหารไม่ได้คุณภาพ ไม่สุกบ้าง หรือไหม้บ้าง รวมไปถึงเรื่องของการจัดการคิวและออเดอร์ที่ยังไม่ดีเท่าที่ควร
จากที่เล่ามาจะเห็นได้ว่าการสร้างแคมเปญสุดว้าวให้กลายเป็นไวรัล ด้วยการเล่นกับตัวเลขราคาที่ดึงดูด อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไป แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น หากจะใช้กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้า สิ่งที่ต้องมีคือการวางแผนรับมือผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบที่จะตามมาไว้ด้วย และสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่กำลังวางแผนคิดแคมเปญให้เป็นไวรัล อยากให้เกิดการเข้าถึงรวดเร็วและล้นหลามเหมือนกับแคมเปญพิซซ่า 2 เจ้านี้ อาจจะต้องชัดเจนและเตรียมพร้อมในเรื่องต่อไปนี้ให้ดีเสียก่อน ได้แก่
▪️ ความพร้อมของทีมงาน
การลดราคาสินค้าเพื่อหวังยอดออเดอร์ที่มากขึ้น ส่งผลกระทบกับทีมงานโดยตรง โดยเฉพาะกับธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหาร ที่ต้องมีการปรุงสดโดยพนักงานเอง นับว่ามีข้อจำกัดทางด้านเวลามากๆ เพราะฉะนั้นต้องวางแผนให้ดีว่า การผลิตที่สามารถทำได้นั้น Max สุดอยู่ที่จำนวนกี่ออเดอร์กันแน่ และหากออเดอร์เกินความสามารถของทีมงานจะมีการจัดการเพิ่มทีมงานอย่างไรต่อไป
▪️ ความพร้อมในระบบการจัดการ
ความพร้อมเรื่องคนถือว่าสำคัญ และความพร้อมในการจัดการก็เป็นเรื่องที่ต้อง Concern ไม่น้อยก่อนที่จะปล่อยแคมเปญกระตุ้นยอดขายจำนวนมากๆ ออกไป เพราะไม่ใช่แค่รับออเดอร์เข้ามาแล้วทุกอย่างจะจบ แต่ยังมีเรื่องการเตรียมสินค้า จัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าด้วย และแน่นอนว่าในการจัดการจะต้องทำให้ลูกค้าประทับใจมากที่สุด
▪️ ความรวดเร็วในการปรับปรุงตาม Feedback
สิ่งสุดท้ายที่ต้องวางแผนรับมือให้พร้อม คือความรวดเร็วในการปรับปรุง ปรับเปลี่ยนหากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เพราะแน่นอนว่าแม้จะพอคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากปล่อยแคมเปญออกไป แต่ก็อาจมี Feedback ด้านลบที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ หากมีการปรับปรุง ปรับแก้ไว นอกจากจะทำให้แคมเปญรันต่อไปจนสิ้นสุดแล้ว ยังช่วยรักษาภาพลักษณ์ของธุรกิจไว้ได้อีกด้วย
สรุปได้ว่าไม่ว่าจะคิดแคมเปญกระตุ้นยอดขายแบบไหนก็ตาม หากสร้าง Impact ต่อลูกค้าได้ สิ่งที่รีเทิร์นกลับมานั่นคือผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ SME อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นการวางแผนรับมือ Negative Feedback ไว้ก่อนล่วงหน้า นับว่าเป็นสิ่งที่ SME เองต้องพร้อมเตรียมแผนรับมือไว้เสมอ หากมีความชัดเจนทั้งในเรื่องของทีมงานหลังบ้าน ระบบการจัดการ และพร้อมที่จะปรับตาม Feedback ได้อย่างรวดเร็วแล้วล่ะก็ เริ่มไดรฟ์แคมเปญกระตุ้นยอดขายได้เลย!
Share